12 น้ำสมุนไพร ดับกระหายคลายโรค
1. น้ำกระเจี๊ยบ แก้กระหายน้ำ ช่วยขับปัสสาวะ เป็นยาระบายอ่อนๆ
น้ำกระเจี๊ยบ เป็นน้ำสมุนไพรที่ได้มาจากกลีบเลี้ยงแก่ของดอกกระเจี๊ยบแดง นำมาใช้ได้ทั้งกลีบสด และแห้ง
สรรพคุณ
แก้กระหายน้ำ ทำให้สดชื่น ขับปัสสาวะ แก้นิ่ว ช่วยระบายอ่อนๆ ช่วยย่อยอาหาร โดยเฉพาะในรายที่ น้ำดีไม่ปกติ ช่วยลดไข้ แก้ไอ
ส่วนผสม
กลีบดอกกระเจี๊ยบแดงสดหรือแห้ง 1/2 ถ้วย
น้ำเปล่า 5 ถ้วย
เกลือป่นและน้ำตาลทรายแดงตามชอบ
วิธีทำ
1.นำกลีบดอกกระเจี๊ยบมาล้างให้สะอาด
2.ใส่กลีบดอกกระเจี๊ยบและน้ำลงในหม้อต้มไปเรื่อยๆ จนเนื้อกระเจี๊ยบนุ่ม
3.ยกลงจากเตา กรองเอาแต่น้ำกระเจี๊ยบมาต้มไฟอ่อนต่อไป
4.นำเกลือและน้ำตาล ใส่ลงไปปรุงรสตามใจชอบรอจนน้ำตาลทรายละลายดีแล้วจึงยกลงจากเตาไฟตักใส่ขวดแช่เย็นไว้ดื่ม
ปัจจุบันมีการนำดอกกระเจี๊ยบแดงมาชงเป็นยาสมุนไพร โดยการหั่นหรือสัปเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปตากแดดหรืออบให้แห้ง เก็บไว้ในกระป่องหรือขวดที่สะอาดปิดฝาให้สนิท เวลาชงให้นำกระเจี๊ยบแดงมาชงเหมือนกับชงชาทั่วไป
2. น้ำเก็กฮวย แก้ร้อนในกระหายน้ำ
น้ำเก็กฮวยเป็นน้ำสมุนไพรที่ได้จากการต้มดอกเก็กฮวยแห้งหรือที่คนไทยเรียกว่าดอกเบญจมาศสวน
สรรพคุณ
แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ช่วยให้สดชื่น อาการครั่นเนื้อครั่นตัว หรือเป็นหวัดเพราะอากาศร้อน
ส่วนผสม
ดอกเก็กฮวยแห้ง 30 กรัม
น้ำเปล่า 1 ลิตร
น้ำตาลทรายแดงตามชอบ
วิธีทำ
1.ใช้ดอกเก็กฮวยแห้ง
2.นำมาล้างน้ำให้สะอาดนำใส่หม้อต้มเคี่ยว 5 นาที เติมน้ำตาลทรายแดง ชิมรสตามใจชอบ จะได้น้ำเก็กฮวยสีเหลืองอ่อนรสหวานเย็น
3.ถ้าต้องการให้น้ำสีเหลืองอ่อนหน้าดื่มยิ่งขึ้น ให้ใส่เมล็ดพุทราจีนต้มเคี่ยว เมล็ดพุทราจีนจะให้สีเลือง ทำให้น้ำเก็กฮวยมีสี
3.น้ำขิง แก้ไอ บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อจุกเสียด
น้ำขิงเป็นน้ำสมุนไพรที่ได้จากเหง้าขิงแก่สดมาต้มกับน้ำใช้ดื่ม
สรรพคุณ
ช่วยให้เจริญอาหาร บำรุง ธาตุ ขับลมแก้คลื่นไส้ อาเจียน ไอ หอบ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ และปวดท้อง
ส่วนผสม
ขิงแก่ 1 แง่ง
น้ำ 1 ลิตร
น้ำตาลทรายตามชอบ
วิธีทำ
1.นำเหง้าขิงมาล้างน้ำให้สะอาดทุบพอแหลกตั้งน้ำให้เดือด
2.เอาขิงลงต้มให้เดือด แล้วกรองเอากากออก
3.ถ้าต้องการหวานก็เติมน้ำตาล ชิมรสตามต้องการ รีบยกลง
4.กรองใส่ขวดที่นึ่งแล้ว 20-30นาที ตั้งทิ้งไว้เก็บใส่ในตู้เย็น เก็บไว้ดื่มได้นานการต้มน้ำขิงถ้าเดือดนานเกินไปกลิ่นหอมของขิง ซึ่งเป็นน้ำมันหอมระเหยจะระเหยออกไปหมด ทำให้น้ำขิงที่ได้ไม่มีกลิ่นหอมชวนดื่ม ปัจจุบันมีการนำเหง้าขิงมาตากให้แห้ง แล้วบดเป็นผงบรรจุขวดใช้ชงเป็นชาสมุนไพรได้เช่นเดียวกัน
4. น้ำตะไคร้ บรรเทาอาการไข้หวัด ขับเหงื่อ ขับลม ขับปัสสาวะ
นิยมนำตะไคร้แก่ๆ สดทั้งต้นและใบมาทุบให้แตกและต้มกับน้ำดื่มเป็นยาสมุนไพร
สรรพคุณ
ช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด ขับเหงื่อ ขับลม ขับปัสสาวะได้ดี
ส่วนผสม
ตะไคร้ 2-3 ตัน
น้ำสะอาด 2-3ถ้วย
น้ำตาลทรายแดงตามชอบ
วิธีทำ
1.นำต้นตะไคร้ ตัดใบออก แล้วล้างน้ำให้ สะอาด
2.ตัดเป็นท่อนสั้นๆ ทุบพอแตก ใส่หม้อเติมน้ำ ตั้งไฟพอเดือด กรองเอาแต่น้ำ
3.ถ้าต้องการหวานให้เติมน้ำนิดหน่อย นำน้ำสมุนไพรตั้งไฟให้เดือด 3 นาที ยกลง
4.กรองใส่ขวดที่นึ่งแล้ว 20—30นาที ปิดฝาขวด เย็นแล้วเก็บใส่ตู้เย็น จะได้น้ำตะไคร้สีเหลืองอมเขียวอ่อนๆ ใสมีกลิ่นหอมตะไคร้ ปัจจุบันนิยมนำตะไคร้มาหั่นเป็นฝอยนำไปตากแห้งแล้วชงเป็นชาดื่มร้อนก็ได้เช่นกัน
5. น้ำใบบัวบก แก้ เจ็บคอ กระหายน้ำ ทำให้สดชื่น ลดความดันโลหิตสูง
น้ำบัวบก เป็นน้ำสมุนไพรที่ได้จากใบบัวบกสดตำให้ละเอียดต้มผสมกับน้ำจะได้มีน้ำสมุนไพรกลิ่นหอมชื่นใจ
สรรพคุณ
แก้เจ็บคอ กระหายน้ำ แก้ชำใน ทำให้สดชื่น ลดความดันโลหิตสูง
ส่วนผสม
ใบบัวบกสด 2 ถ้วย
น้ำสะอาด 2 ถ้วย
น้ำเชื่อมตามชอบ
น้ำแข็ง
วิธีทำ
1.นำใบบัวบกที่สดๆ ใหม่ๆล้างน้ำให้สะอาด
2.นำมาสับหรือตำให้ละเอียด
3.กรองด้วยผ้าขาวบาง
4.เติมน้ำเชื่อมพอหวาน ชิมรสตามใจชอบ
5.จะได้น้ำใบบัวบก สีเขียวใสน่ารับประทาน หรือจะใส่น้ำแข็ง ลงไปก็ได้
6. น้ำเตยหอม บำรุงหัวใจ ทำให้ชุมชื่น
น้ำเตยหอม เป็นน้ำสมุนไพรที่ทำจากใบสดของใบเตยหอมที่ไม่อ่อนไม่แก่เกินไป นำมาต้มกับน้ำ หรือนำใบเตยสดไปหั่นเป็นฝอยๆ ตากแดดหรืออบให้แห้ง เก็บไว้ชงเป็น น้ำชาใบเตย
สรรพคุณ
บำรุงหัวใ จ ทำให้ชุมชื่น ช่วยขับปัสสาวะ
ส่วนผสม
ใบเตย 3 ถ้วย
น้ำสะอาด 8 ถ้วย
น้ำตาลทรายแดงตามชอบ
วิธีทำ
1.ใบเตยสดที่ไม่แก่มากเก็บใหม่ๆล้างที่ละใบให้สะอาด 2.นำมาหั่นตามขวางเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ลงในหม้อที่มีน้ำกำลังต้มเดือด ต้มเคี่ยว 5-10 นาที
3.ถ้าชอบหวานให้เติม น้ำตาลทราย กรองเอากากออก จะได้น้ำใบเตยหอมไว้รับประทาน อาจเติมน้ำแข็งลงไปไว้ดื่มก็ได้ หรือจะชงเป็นชาดื่มร้อนๆ เพื่อสุขภาพก็ดีทีเดียว
7. น้ำมะขาม แก้ท้องผูก เป็นยาระบาย แก้ไอ ขับเสมหะ
น้ำมะขาม เป็นน้ำสมุนไพรที่ได้จากเนื้อมะขามเปียกใหม่ๆ ที่แกะออกจากฝักมาละลายต้มน้ำ ซึ่งจะได้น้ำสมุนไพรที่มีคุณภาพ
สรรพคุณ
แก้ท้องผูก เป็นยาระบาย แก้ไอ ขับเสมหะ ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย ลดการกระหายน้ำ
ส่วนผสม
เนื้อมะขามเปียกใหม่ๆ 200 กรัม
น้ำ 3 ลิตร
น้ำตาลทรายตามชอบ
เกลือป่นตามชอบ
วิธีทำ
1. ล้างเนื้อมะขามเปียกให้สะอาดแล้วนำไปใส่ลงในหม้อเคลือบ เติมน้ำ ยกขึ้นตั้งไฟ พอเดือดคนให้เนื้อมะขามผสมกับน้ำให้มากที่สุดแล้วยกลง
2. จากนั้นกรองเอาแต่น้ำใส่หม้อเคลือบ เอากากทิ้งไป ยกขึ้นตั้งไฟอีกครั้ง
3. พอเดือดใส่น้ำตาล เกลือ ตามใจชอบคนให้ละลาย เดือดสักครู่ยกลงจากเตา
4. ตั้งทิ้งไว้ให้เย็น แล้วกรองใส่ขวด ( ต้องนึ่งขวดก่อน ) ปิดฝาขวด แล้วเก็บไว้ในตู้เย็น
5. เวลารับประทานจะเติมน้ำแข็งก็ได้ ใช้เป็นเครื่องดื่มดับกระหายได้
8. น้ำมะนาว แก้ไอ ขับเสมหะ ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
น้ำมะนาว เป็นน้ำสมุนไพรที่ใช้มะนาวสดๆที่บีบออกมาจากผลของมะนาวผสมกับน้ำต้มจะได้น้ำสมุนไพรเอาไว้ดื่ม ชุ่มคอดีทีเดียว
สรรพคุณ
แก้ไอ ขับเสมหะ ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ กระหาย แก้ร้อนใน บำรุงธาติ เจริญิอาหาร และแก้เลือดออกตามไรฟัน หรือโรคลักปิดลักเปิด
ส่วนผสม
น้ำมะนาวสดๆ 1 ถ้วย
น้ำตาลทรายตามชอบ
เกลือป่นตามชอบ
น้ำสะอาด
วิธีทำ
1. ทำน้ำเชื่อมก่อน โดยผสมน้ำตาลและน้ำตั้งไฟให้ละลาย ทิ้งไว้พออุ่นๆ
2. จากนั้นใส่น้ำมะนาว เกลือลงในน้ำเชื่อมแล้วคนเกลือให้ละลาย
3. จะรับประทานแบบอุ่นๆหรือใส่น้ำแข็งลงไปก็ได้
9. น้ำบัว แก้ท้องร่วง แก้ร้อนใน กระหายน้ำ บำรุงกำลัง
น้ำบัว เป็นน้ำสมุนไพรที่ได้จากรากบัวต้มกับน้ำ ใช้ดื่มเป็นน้ำสมุนไพรดับกระหาย
สรรพคุณ
แก้ท้องร่วง แก้ร้อนใน กระหายน้ำ บำรุงกำลัง
ส่วนผสม
รากบัว 2 ถ้วย
น้ำตาลทรายตามชอบ
น้ำสะอาด
วีธีทำ
1. นำลากบัวมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วฝานเป็นชิ้นบางๆ
2. นำไปต้มกับน้ำ
3. จากนั้นเคี่ยวจนกระทั่งได้น้ำเป็นสีชมพูแล้วกรองเอากากทิ้งไป
4. ถ้าชอบหวานเติมน้ำตาลทรายนิดหน่อย
5. ตั้งไฟให้เดือด ชิมรสชาติตามใจชอบ ยกลงตั้งทิงไว้ให้เย็น
6. แล้วบรรจุใส่ขวดที่นึ่งแล้วประมาณ 20 - 30 นาทีแล้วเก็บไว้ในตู้เย็น จะได้น้ำรากบัวสีชมพู รสหวานเย็น
10. น้ำว่านหางจระเข้ บำรุงร่างกายทำให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า
น้ำว่านหางจระเข้ เป็นน้ำสมุนไพรที่ได้จากวุ้นของหางจระเข้ผสมกับน้ำต้มเอาไว้ดื่มเหมาะสำหรับคนนอนดึกอ่อนเพลีย ดื่มแล้วร่างกายสดชื่น กระปี้กระเปร่า
สรรพคุณ
บำรุงร่างกายทำให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า ช่วยให้ระบบขับถ่ายดี ท้องไม่ผูก
ส่วนผสม
ใบว่านหางจระเข้ 2 ก้าน
น้ำต้มสุก 2 ถ้วย
น้ำเชื่อมตามชอบ
วิธีทำ
1. เลือกใบว่านหางจระเข้ขนาดใหญ่ โตเต็มที่ ปลอกเปลือกล้างน้ำให้หมดยางสีเหลือง
2. แล้วนำไปใส่เครื่องปั่น เติมน้ำต้มสุก ปั่นให้ละเอียด
3. กรองด้วยผ้าขาวบาง
4. เติมน้ำเชื่อมเล็กน้อย ใส่ขวด (ที่นึ่งแล้ว )ปิดฝาขวด
5. เก็บไว้ในตู้เย็น ควรเตรียมดื่มไม่เกิน 2 วัน
11.น้ำข่า รักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด
ข่า เป็นพืชสมุนไพรในครัวที่สามารถนำมาทำเป็นน้ำสมุนไพร โดยใช้เหง้าข่าแก่มาต้มกับน้ำ ใช้ดื่มร้อนๆ
สรรพคุณ
รักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ขับลมในลำไส้
ส่วนผสม
เหง้าข่าแก่สดหรือแห้ง 15 แว่น
น้ำ 1 ลิตร
วิธีทำ
1. นำเหง้ามาล้างในน้ำสะอาด
2. หั่นเป็นแว่นบางๆตั้งน้ำให้เดือด
3. ใส่ข่าลงไป ต้มต่อไปอีก 5 - 10 นาที ยกหม้อลง
4. ตักเอาแต่น้ำข่ามาดื่มร้อนๆส่วนที่เหลือเก็บเอาไว้เคี่ยวใหม่ดื่มต่อไปจนกว่าน้ำจะหมด
12. น้ำมะตูม แก้ร้อนในบำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหาร
น้ำมะตูม เป็นน้ำสมุนไพรที่ได้จากผลอ่อนของมะตูมมาฝานบางๆแล้วตากแห้ง นำมาต้มกับน้ำหรือนำมะตูมแห้งไปบดเป็นผง นำมาชงาเป็นชามะตูมได้เช่นกัน
สรรพคุณ
เป็นยาบำรุงธาติ ช่วยให้เจริญอาหาร กินข้าวได้ แก้บิด แก้ร้อนใน ช่วยขับลม
ส่วนผสม
มะตูมแห้ง 3 - 6 แผ่น
น้ำ 7 ถ้วย
น้ำตาลตามชอบ
วิธีทำ
1. นำมะตูมมาย่างไฟให้หอม ตั้งน้ำให้เดือด นำมะตูมมาใส่ลงไปในหม้อ ต้มนานประมาณ 30 นาที
2. ตักเนื้อมะตูมออกใส่น้ำต่อ บำรุงรสตามชอบ พอน้ำตาลละลายยกหม้อลง
3. นำน้ำมะตูมกรองผ้าขาวบวง ตักใส่ขวดเก็บไว้ในตู้เย็น เก็บไว้ดื่มได้นานขึ้น
วิธีการชงชา
ให้ใช้ผงมะตูม 1 ช้อนชา ละลายในน้ำร้อน 1 แก้ว ทิ้งไว้สักครู่ แล้วดื่มร้อนๆ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
สาระน่าสนใจมาก
ตอบลบจะลองเอาไปทำดูนะจ๊ะ
ตอบลบเป็นร้อนในพอดีเลย น้ำเก๊กฮวย...^^
ตอบลบสงสัยต้องกินน้ำเตยหอมเยอะๆ จะได้บำรุงหัวใจ...
ตอบลบไม่ชอบน้ำใบบัวบกเลยอ่ะ
ตอบลบขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆนะคะ
ตอบลบได้น้ำขิงสักแก้วคงดี ท้องอืด5555
ตอบลบสีบล็อกเทอฟรุ้งฟริ้งมาก อิือิ
ตอบลบสงสัยเราต้องกินน้ำใบบัวบก รู้สึกเหมือนอกหักช้ำใน อิอิ
ตอบลบต้องกินน้ำเตยเยอะๆ จะได้บำรุงหัวใจ...
ตอบลบต้องกินน้ำเตยเยอะๆ จะได้บำรุงหัวใจ...
ตอบลบน่าทำทั้งนั้นเรย
ตอบลบมีประโยชน์
ตอบลบน้ำมะนาวของโปรดเล้ยยยย
ตอบลบเราชอบดื่มน้ำใบบัวบก...
ตอบลบแต่น้ำว่านห่างจระเข้ก็อร่อยดีน่